Unseen Moldova..กับแดนคอมมิวนิสต์ย้อนยุคที่สาปสูญ..Transnistria

วันนี้คณะทัวร์สหายคอมของชายได้ออกเดินทางสู่ ยูเครน ด้วยจะมีโปรแกรมแวะชมป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของมอลโดวานั่นคือ..ป้อมปราการ Bender Fortress ป้อมปราการยุคโบราณตั้งแต่ยุคมอลโดวาเป็นราชอาณาจักรมอลดาเวียน ศต.ที่ 10 และถูกบูรณะในสมัยออตโตมัน ศต.ที่ 14 แต่เนื่องจากป้อมนี่อยู่ในเขตปกครองตนเองของรัฐคอมมิวนิสต์ที่ชื่อ เขตทรานสนิสเตรีย ครับ เอ๊ะ..ยังไงกัน ประเทศเดียวกันแต่ทำไมมีเขตปกครองตนเองได้?เรื่องยาวครับ แต่ชายจะขอย่อเลยละกัน

เหตุมาจากตอนยุค1812 มอลโดว่าเคยเป็นเมืองขึ้นจักรวรรดิรัสเซียมา จนเสียให้โรมาเนียช่วง สงครามโลกครั้งที่ 1 พอ สงครามโลกครั้งที่ 2 เสียให้เยอรมัน หลัง 1945 ตกเป็นของสหภาพโซเวียต จรดปี 1991 จึงเป็นเอกราช แต่ก็มีปัญหาทับซ้อน คือมาจากรัฐบาลสหภาพโซเวียตได้ใช้เขตมอลโดว่าเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษมอลดาเวียน เขตเกษตรกรรมเลี้ยงเครือคอมมิวนิสต์ รัฐบาลของท่านสตาลินได้นำชาวรัสเซียและยูเครนเข้ามาจัดสรรที่ทำกิน แบ่งที่ดินกับชาวมอลดาเวียน

ต่อมาสมัยท่านผู้นำเลโอนิดเบรสเนฟ ท่านเป็นประธานพรรคคอมแห่งมอลโดว่า ได้มีการจัดการขั้นเด็ดขาดกับชาวมอลดาเวียนครับโดยใช้นโยบายขยายทีทำกินชาวรัสเซียกับยูเครนเรื่องมันเลยยุ่งอีรุงตุงนังตอนมอลโดว่าประกาศเอกราชช่วงปี 1991-1992 เพราะมีกลุ่มคนที่เป็นรัสเซียอาศัยอยู่และต้องการการปกครองแบบคอมมิวนิสต์รัสเซียเดิม โดยมายึดพิ้นที่ภาคตะวันออกริมแม่น้ำดนีปเปอร์ที่ติดกับยูเครนสิฮะ ประกาศกันขนาดมีการประกาศเป็นรัฐคอมมิวนิสต์อิสระกันเลยครับ หยามรัฐบาลมอลโดว่ามาก ถึงกับต้องประกาศสงครามกันในช่วงปี 1990-1992 เรียก สงครามมอลดาเวียนทรานมิสเตรีย มีผู้เสียหายเสียชีวิตมากมาย โดยนาโต้สนับสนุนยุทโธปกรณ์การรบให้มอลโดว่า แต่รัสเซียก็สนับสนุนฝ่ายทรานสมิสเตรียเช่นกัน แบบสงครามตัวแทน จบด้วยสหประชาชาติเข้ามาไกล่เกลี่ย จึงมีสนธิสัญญาหยุดยิงเกิดขึ้น นำไปสู่การเจรจาสันติภาพ ทั่วทั้งสองฝ่าย จึงประกาศจุดผ่อนปรน โดยทรานสมิสเตรียมีการปกครองตนเองได้ มีรัฐบาล ค่าเงิน ประชาชนของตนเองได้ กองกำลังทหารของรัสเซียมาคุ้มครองด้วยโดยต้องอยู่ในอาณาเขตของมอลโดว่าดูแลอีกที เหมือนรัฐซ้อนรัฐครับ แต่ระบบการปกครองของทรานสมิสเตรียจะเป็นระบบคอมมิวนิสต์รัสเซียในฝันของพี่น้องเขาเลยฮะ โดยไม่เป็นประเทศอย่างเป็นทางการ เพราะยูเอ็นกับยุโรปก็ไม่รับรองครับ มีแค่รัฐอิสระสามรัฐรับรองกันเอง คือ รัฐฮับบาเซียอยู่ในจอร์เจีย ,เซาท์ออสซีเชีย,และสาธารณรัฐ นากอร์โนคาราบัค ( อยู่ตรงไหนของโลก???) ซึ่งไอ้สามรัฐนี่ก็ไม่มีใครรับรองสถานะประเทศนะฮะ!

วันนี้ชายมาถึงก็ต้องขอวีซ่าที่ชายแดนด้วยนะฮะ โดยเขาจะให้กระดาษวีซ่ามาใบนึง ตลอดเวลาที่เราเที่ยวในเขตนี้ วีซ่ากระดาษห้ามหายนะครับ จนกว่าจะออกจากเขตนี้ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าชมคือ เขตป้อมปราการ Bender Fotress เป็นปราการก่ออิฐถือปูนในยุค ออตโตมันปกครองเก็บภาษีในเขตนี้ และอารามอัสสัมชัญแห่งทรานมิสเตรีย อันนี้ก็ดีงามครับ เราได้ชิม Wine Cellar ของมหาวิหารทรานสมิสเตียด้วย ( รับรสไวน์พระทำขนานแท้จริงๆ ) และเขตรัฐบาลซึ่งมีภาพของยุคสหภาพโซเวียตอยู่อย่างชัดเจน แบบรัสเซียย้อนยุคจริงๆครับ ชายกับคณะนี่นึกว่า หลงยุคมายุคสงครามเย็นเลย บรรยากาศมันใช่เลย มีอนุสาวรีย์ท่านเลนิน ตั้งตระหง่านหน้าที่ทำการรัฐสภาและพรรคคอมมิวนิสต์ อนุสรณ์สถานระลึกถึงสงครามต่างๆตั้งแต่ WW1,WW2 ตลอดจนสงครามแบ่งแยกเขตทรานสมิสเตรียกับรัฐบาลมอลโดว่า ถนนกว้างใหญ่หลายเลนไว้สวนสนามแบบหน้าเครมลินในมอสโคว์เลยครับ ตื่นเต้นและสนุกดีครับ เหมือนทัวร์สหภาพโซเวียตย้อนยุคจริงๆ แบบไม่ต้องจินตนาการเลย มาเปิดเมืองคอมมิวนิสต์ย้อนยุค ต้องมากับเราฮะ ยังมีเมืองหลงยุคแบบนี้อยู่จริง